Loading...

Menu

Menu

บทความ

หน้ากากอนามัยใส่ด้านไหน- รถเช่าดีดี

หน้ากากอนามัยใส่ด้านไหน

     หน้ากากอนามัยมี 2 แบบ คือ หน้ากากอนามัยแบบทั่วไป ที่เรามักเห็นแพทย์ใช้กันนั่นแหละ หน้ากากอนามัยแบบนี้ใช้เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโรคผ่านทางการไอหรือจามได้ แต่บริเวณด้านล่างจะไม่สามารถป้องกันการได้รับสารปนเปื้อนจากการสูดดมได้

     ส่วนหน้ากากอนามัยอีกแบบก็คือ หน้ากากอนามัยแบบ N95 มีลักษณะครอบลงไปที่บริเวณปากและจมูกอย่างมิดชิด มีประสิทธิภาพสูงกว่าแบบทั่วไป ช่วยป้องกันเชื้อโรคที่มีขนาดเล็กมากๆ ได้ นิยมใช้ในวงการแพทย์ที่ต้องการความปลอดภัยจากการติดเชื้อสูง เช่น การป้องกันเชื้อวัณโรค หรือเชื้อแอนแทรกซ์ และบุคลากรที่ทำงานเกี่ยวกับสารเคมีก็นิยมใช้เช่นกัน
    สำหรับการใช้งานของคนทั่วไป สามารถเลือกใช้ได้ทั้ง 2 แบบ แล้วแต่ความสะดวก ที่สำคัญที่สุดคือ ต้องรู้ว่าหน้ากากอนามัยควรใส่ด้านไหนและวิธีใส่หน้ากากอนามัยที่ถูกต้อง ถึงจะได้รับประโยชน์สูงสุด หน้ากากอนามัยแบบทั่วไปควรใส่ให้พอดีกับใบหน้า หันด้านที่มีสีออก และให้ด้านที่มีลวดอยู่ด้านบน หากเป็นแบบไม่มีสี ให้สังเกตรอยพับของหน้ากากอนามัย หากมุมของรอยพับชี้ลงด้านล่าง ด้านนั้นจะเป็นด้านนอกของหน้ากากอนามัย
      ส่วนวิธีใส่หน้ากากอนามัยแบบ N95 ให้ถือหน้ากากอนามัยไว้ในอุ้งมือ แล้วครอบหน้ากากบริเวณปากและจมูก ดึงสายรัดที่อยู่ด้านล่างคล้องศีรษะ แล้วดึงลงไปบริเวณใต้ใบหู จากนั้นดึงสายรัดเส้นบนคล้องให้อยู่บริเวณหลังศีรษะ บีบบริเวณเส้นลวดให้พอดีกับจมูก ทดสอบความพอดีของหน้ากากโดยใช้มือทั้งสองข้างทาบบริเวณหน้ากาก แล้วลองหายใจ หากหน้ากากพอดีกับใบหน้าเวลาหายใจเข้าหน้ากากจะยุบตัว หายใจออกจะพองตัวออกแต่ถ้าหน้ากากที่ใช้เปียกจากสารคัดหลั่ง เช่น น้ำลาย น้ำมูก ควรเปลี่ยนหน้ากากอนามัยทันที และไม่ควรนำกลับมาใช้ซ้ำ ก่อนทิ้งควรนำหน้ากากที่ใช้แล้วใส่ถุงปิดให้มิดชิด หรือทิ้งในถังขยะติดเชื้อ และล้างมือทำความสะอาดเพื่อป้องกันการตกค้างของเชื้อโรค
    แม้หน้ากากอนามัยจะมีประโยชน์ แต่ก็ไม่สามารถป้องกันได้ 100% แม้จะเลือกสวมหน้ากากอนามัยชนิด N95 ก็ช่วยป้องกันเชื้อโรคได้แค่ 95% เท่านั้น ทางที่ดีไม่ควรฝากความหวังไว้ที่หน้ากากอนามัยเพียงอย่างเดียว ยังมีทางเลือกอื่นที่ชัวร์กว่านั้น 
    ทางเลือกที่ว่าก็คือ การซื้อประกันสุขภาพติดตัวไว้ อย่างแผนประกันสุขภาพมิติใหม่ ซูเปอร์แพลน จากซิกน่า ค่าเบี้ยเริ่มต้นแค่เดือนละ 452 บาท ให้ความคุ้มครองสูงสุดถึง 300,000 บาทต่อโรค หากตรวจพบโรค ซิกน่าพร้อมมอบเงินก้อนสำหรับดำรงชีพให้ทันที และจ่ายค่ารักษาตามจริงจนกว่าจะหายป่วย เท่านี้ก็มั่นใจได้เลยว่า ต่อให้หน้ากากอนามัยป้องกันได้ไม่สุด แต่เราใช้ชีวิตได้เต็มที่สุดๆ เหมือนเดิม